Last updated: 8 ก.พ. 2567 | 1376 จำนวนผู้เข้าชม |
ปูทางสำหรับผู้ศึกษา และผู้ใช้รูน
อีกครั้ง !!! เรื่องนี้ยังคงเป็นข้อสงสัย เกี่ยวกับศรัทธาใหม่ในศาสตร์นอร์ส และการเป็นพุทธศาสนิกชนในคราเดียวกัน ทำได้หรือไม่ ผิดหลักศาสนาพุทธหรือไม่ หรือต้องเปลี่ยนศาสนา หรือต้องเป็นคนนอกศาสนา (Pagan) จึงจะใช้รูนได้ วันนี้ Runes & Tarot Guide มีแนวคิดให้ปรับทัศนคติครับ
บ่อยครั้ง ที่เราสับสนในเรื่องของศรัทธา ความเชื่อ คำสอนเดิมในฐานะพุทธศาสนิกชน จนทำให้การศึกษาวิชารูนไปต่อได้ไม่สุด สะดุดที่ความกังขา จึงขอให้คิดตามทีละลำดับไปพร้อมกัน
1) สำหรับผู้ที่นับถือเอกเทวนิยม หรือพระเจ้าองค์เดียว เช่นศาสนาคริสต์ หรืออิสลาม ท่านจำเป็นต้องออกจากจารีตเก่า เพื่อเข้าสู่วิถีเพแกนเสียก่อน จึงจะศึกษาวิชารูนได้ ตรงนี้ไม่ได้สนับสนุนแต่อย่างใด เพียงให้แนวคิดและข้อควรคำนึงถึงข้อห้ามทางศาสนาเดิม ดังนั้น กรณีนี้ ท่านไม่มีสิทธิ์ใช้อักษรรูนโดยพื้นฐานทางศาสนา
2) ศาสนาพุทธ สืบทอดมาจากอินเดีย ต่อยอดมาจากพราหมณ์-ฮินดู ในวิถีปฏิบัติก่อนที่พระพุทธองค์จะพบทางสว่าง ทางแห่งการดับทุกข์ และทิ้งไว้ให้เพียงคำสอน ศาสนาพุทธไม่สนับสนุนให้กราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องด้วยมนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ สามารถบรรลุจุดสูงสุดแห่งการดับทุกข์ด้วยตนเอง แต่ !!! ... ไม่มีข้อห้ามทางศาสนาในการกราบไหว้บูชา โดยแสดงความหยามเหยียด ผิดกับที่ต่างชาติหลายคน ด่าทอคนไทยว่ากราบไหว้มนุษย์กันเองทำไม? จึงเห็นได้ว่า เหล่าทวยเทพทั้งฝั่งฮินดู ฝั่งอารยธรรมจีนโบราณ เทพเซียนต่างๆ การไหว้ผี เจ้าที่ เทวดา เซ่นบรรพบุรุษ จึงยังคงมีตามติดมากับวัดวาอาราม ถามว่าตรงจุดนี้ ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของแต่ละคน ผู้ที่บวชเป็นพระ แน่นอนว่า ท่านไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับศาสตร์นอกรีต นอกศีล นอกข้อปฏิบัติอันเคร่งครัดของตน (จะว่าไปแล้วทั้งตำราและเครื่องราง ก็มีพระสงฆ์หลายรูปให้ความสนใจสั่งซื้อไปเหมือนกัน ตรงนี้จะติเตียนก็มิได้ แล้วแต่ความประสงค์ของท่าน แต่โดยทัศนคติส่วนตัวแล้ว เห็นว่าไม่ควรครับ) แต่ในฐานะพุทธศาสนิกชนคนทั่วไปนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะน้อมนำคำสอนในบริบทไหนมาใช้ในชีวิตประจำวัน หากเราต้องการถึงซึ่งนิพพาน คุณก็วางแบบแผนชีวิตของคุณ ตัดขาดทางโลก มุ่งสู่การหลุดพ้น แต่หากคุณจะน้อมนำเพียงคำสอนบางส่วน แล้วถือปฏิบัติควบคู่ไปกับการบูชาทวยเทพตามศรัทธา ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ถึงที่สุดแล้ว เราเองจะเป็นผู้กำหนดว่า จะเดินไปทิศทางใด ดังเช่นที่พระพุทธองค์เมื่อทรงดับขันธปรินิพพาน ทิ้งไว้เพียงคำสอน และสมัยโบราณนั้น ศรัทธาตราธรรมจักร ยึดถือคติธรรมทางศาสนาเป็นเครื่องขัดเกลา จนกระทั่งมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาในภายหลัง แลกราบไหว้บูชาแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างความย้อนแย้งในธรรมะคติ และเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควร ว่าลอกเลียนแบบการบูชาทวยเทพทางฝั่งยุโรปหรือไม่อย่างไร
กระทั่งทุกวันนี้ คนทั่วไปยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่า พระพุทธรูปที่กราบไหว้นั้น คือรูปแทนพระธรรมคำสอน แต่มักจะคิดว่า "ฉันกำลังกราบพระพุทธเจ้าอยู่" ซึ่งพระพุทธองค์ปรินิพพานนานแล้ว ตัดขาดสภาวะทางโลก ไม่ได้รับรู้อะไรใดๆ ทั้งปวง พระองค์ไม่เคยส่งดวงจิตใดๆ มารับคำขอพรจากใคร และเมื่อกล่าวโดยนัยนี้ ก็จะมีคำถามว่า "แล้วทำไมขอพรหลวงพ่อปากแดง หรือพระเจ้าทันใจ ตามวัดดังๆ แล้วสำเร็จ" สิ่งนี้อยากให้เข้าใจว่า ด้วยศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนา การทำบุญสร้างบารมี ความขยันหมั่นเพียรและอดทน นี่คือความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จริง ลองใครเที่ยวขอแต่งอมืองอเท้ารอโชคลาภ ก็อาจจะได้กินบุญเก่าไปเท่านั้น และเงื่อนไขของการมูเตลู การกราบพระพุทธรูปดังๆ สำเร็จได้เพราะเทวดาผู้มีฤทธิ์รักษาพระพุทธรูปเหล่านั้น ประทานให้ จึงเป็นที่มาความเชื่อที่ว่า บ้านไหนมีพระพุทธรูป แล้วไม่หมั่นเปลี่ยนน้ำบูชา สวดพุทธมนต์ พุทธคาถา เทวดาท่านก็ไม่มาอยู่ ทำอะไร ขออะไรก็ไม่สำเร็จ (ความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ)
เทคนิคของสายมูฯ คือกราบไหว้ สวดมนต์ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และแผ่เมตตาให้เหล่าเทวดาที่รักษาองค์พระ เพื่อให้ผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ พอมีแนวคิดและข้อปฏิบัตินี้ ก็จะมีกระแสพุทธแท้พุทธเทียมเกิดขึ้น ขอให้ท่านอย่าใส่ใจครับ เอาที่ตนเองพอใจ หรือต้องการเดินทางไหน ทำเพื่อตัวท่านเอง เพราะพวกที่พูดปาวๆ กลางโซเชี่ยล กิเลสแน่นกว่ามาก คนที่จะปลดพันธนาการตัวเองเน้นปฏิบัติจนรู้แจ้ง แล้วจึงสอนเป็นธรรมทาน พวกวิจารณ์เก่ง สร้างบาปติดปากติดมือติดในหัวใจ ไม่มีประโยชน์ต่อสังคมโดยแท้ครับ
3) ว่ากันด้วยศาสตร์นอร์ส ดั้งเดิมมาจากศาสนาอาซาทรู แนวทางปฏิบัติของอาซาทรูมุ่งเน้นการเชื่อมโยงจิตใจต่อธรรมชาติ การปฏิบัติภารกิจในฐานะมนุษย์ให้สมบูรณ์ จุดสูงสุดไม่ใช่การมุ่งสู่นิพพาน แต่เป็นการเข้าสู่สรวงสวรรค์ในแบบฉบับนอร์ส การบูชาทวยเทพผู้ซึ่งนำพาพลังห้วงต่างๆ มาสู่มนุษย์ เป็นการนับถือแบบพหุเทวนิยม คือบูชาเทพเทวาหลายพระองค์ และอารยธรรมความเชื่อที่สืบทอดมาจากเรื่องเล่า ตำนาน จากพ่อมดแม่มดโบราณ ตำกันมานานจนแตกเป็นหลายสาย และเมื่อถึงจุดหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางศาสนา ตำนานเหล่านี้จึงกลายเป็นบทกวี ทั้งสรรเสริญ และล้อเลียนอย่างสนุกปากในยุคต่อมา
แต่คุณเชื่อหรือไม่ครับว่า ทุกตำนาน มีที่มาที่ไป และพลังศักดิ์สิทธิ์ มีอยู่ทุกมุมโลก แค่คนจะพูดกันไปแบบไหน หลักในการทำลายศาสนาอื่นใดที่ไม่ใช่จารีตตน คือทำให้มันดูตลก ล้มล้างให้กลายเป็นมหากาพย์ เป็นการ์ตูน เป็นนวนิยาย หรือภาพยนตร์ไปเสียเท่านั้นเอง หากเรามีศรัทธา เราย่อมเข้าถึงห้วงพลังเหล่านั้น และได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอ
ที่มา : https://paganplaces.com/places/odin-enthroned/
กล่าวถึงมหาเทพโอธินน์ (โอดิน) ผู้เป็นปฐมบูชาของศาสตร์นอร์สนิกายใหญ่ ตามตำนานแล้วท่านชื่นชม ชื่นชอบการแสวงหาความรู้ และวิถีปฏิบัติที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม จริยธรรม และความสัตย์ ดังนั้นแล้ว การที่คุณเป็นพุทธศาสนิกชน คุณไม่จำเป็นต้องละทิ้งศาสนา และสามารถสวดมนต์ ไหว้พระ ทำบุญ สร้างทานบารมี ควบคู่ไปกับการใช้รูนได้ เวลาใช้น้อมจิตรำลึกถึงมหาเทพ เวลาไหว้พระทำบุญ รำลึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง ถามว่าวิธีนี้ผิดต่อศาสนาหรือไม่ กล่าวได้เต็มปากว่าไม่ผิด ศาสนาพุทธเปิดทางให้เดิน จะเดินทางไหนขึ้นอยู่กับผู้น้อมนำ อย่างที่กล่าวเบื้องต้นนั้นเอง ประเภทคำสอนที่ว่า ต้องแบบนั้นนะพุทธแท้ ต้องแบบนี้ อวิชชาเอามาทำไม นับถือพุทธต้องไม่ยุ่งกับคุณไสยใดๆ บลาๆ ตรงนี้อยากให้มองย้อนไปว่า พุทธศานานั้นมีกี่นิกาย แนวทางปฏิบัติมีกี่แบบ เราจะวนอยู่ในเถรวาทจนไม่เปิดกว้างนั้นนำพาคงามสงบ ความร่มเย็น การหลุดพ้น และสู่ทางแห่งการดับทุกข์ ก็ต้องถามตัวเองว่า หน้าที่ การงาน การดำเนินชีวิตของเราพร้อมถึงซึ่งสิ่งเหล่านั้นมากน้อยเพียงใดครับ หลายสิ่งย้อนแย้งหาคำตอบไม่ได้มากมาย หากไล่ลำดับตามหน้าประวัติศาสตร์จะเห็นชัดเจนมากขึ้น ข้อสงสัยมีไว้ให้แก้ และเลือกทางที่ตนเองคิดว่าใช่ นั่นคือความหมายที่ผมต้องการสื่อแก่ทุกคน
ท้ายที่สุด #สรุปแง่คิดในการศึกษาศาสตร์อื่นใด คือหาแนวทางปฏิบัติของตนเองให้พบ หากต้องการใช้รูนไปพร้อมกับวิถีปัจจุบัน ผมทำและเห็นผลชัดเจนดีมาก ไม่ทิ้งจารีตเดิม และน้อมนำทุกพลังที่ดีมาสู่ตน การกราบไหว้ การบูชาสำหรับทุกคนนั้นไซร้ ทำให้ครบ น้อมนำคำสอนดีๆ ของทุกศาสนามาใช้ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ถ้าใครอยากเข้าสู่นิพพาน หรือวาระกรรม การดำเนินชีวิตอำนวยให้เป็นเช่นนั้น คงเป็นทางเลือกที่ดีในอนาคตก็เป็นได้ จงอย่าสับสนในศรัทธา อย่างมงายในความเชื่อบางอย่างเกินไป และอย่าทอดทิ้งคำสอนที่สามารถ นำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ปรับใช้จากธรรมะของพระพุทธองค์ให้เข้ากับวิถีของเรา หากทำได้แบบนี้ คุณจะเป็นผู้ใช้รูนที่สมบูรณ์ และเชื่อเถิดว่า มหาเทพฯ ท่านชื่นชม และชื่นชอบ ที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่อื่นใด เรียนรู้คุณงามความดีจากการปฏิบัติของคุณเองอย่างแน่นอนครับ
สร้างแนวทางให้คิด คิดต่างไปตามจิต เรียกได้ว่านานาจิตตัง เราไม่ตัดสินว่าใครผิดใครถูก ทุกอย่างให้เรียนรู้ด้วยตัวคุณเอง ... อย่าไปสุดโต่งแบบฝรั่งบางกลุ่ม หนักหัวเปล่าๆ ยูต้องแบบนั้น ยูต้องแบบนี้ ปากว่าตนเป็นเพแกน แต่ความคิดยึดติดสุดติ่ง สากลเขาอาจไม่ได้ชื่นชมฝรั่งบางประเภท ฉันใดก็ฉันนั้น ...
-----------------------------
ศึกษาวิชาอักษรรูนได้จากตำรา 2 เล่มนี้ครับ
เล่มที่ 1 : "อักษรรูน" การใช้รูนพยากรณ์และเกร็ดตำนานนอร์ส Rune Reading and Norse Mythology
รวมรวมเนื้อหาในส่วนของการพยากรณ์ทั้งแบบพื้นฐาน และระบบรูนคู่รูนไขว้ที่ไม่เคยถ่ายทอดในตำราเล่มใด ก้าวสู่นักพยากรณ์มืออาชีพ รวมถึงต้นกำเนิด เกร็ดตำนาน และหลักการบูชาเทพเจ้านอร์ส จบในเล่มนี้ (รายละเอียดหน้าสารบัญคลิกที่ภาพหนังสือ)
เล่มที่ 2 : "ยันต์รูน" เมจิกคอลสเตฟส์ และการออกแบบไบนด์รูนพร้อมใช้ Bind Runes and Staves
รวบรวมเนื้อหาเรื่องของการใช้เวทมนตร์นอร์สทั้งในรูปแบบของยันต์รูน (Bind Runes) วิธีการออกแบบและหลักวิธีใช้ตามธาตุต่าง ๆ รวมถึงสัญลักษณ์เวทมนตร์อื่นในแถบนอร์ดิก หรือไอซ์แลนด์ดิก เมจิกคอล สเตฟส์ (Icelandic Magical Staves) และยังมียันต์สำเร็จรูป 133 แบบ ให้ได้ฝึกวาด หรือทดลองทำเวทมนตร์ด้วยตนเอง รวบรวมเสร็จสรรพในเล่มนี้เล่มเดียว (รายละเอียดหน้าสารบัญคลิกที่ภาพหนังสือ)
2 ต.ค. 2567
15 ก.ย. 2567
17 พ.ค. 2567