ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รวมหนังสือแนะนำของ "ไป๋ล่ง"

💜 รวมผลงานเขียนของ อ.ไป๋ล่ง หากท่านสนใจเล่มใดสามารถคลิกที่ภาพหนังสือเพื่อดูตัวอย่างเนื้อหาสารบัญและคลิปวีดีโอประกอบได้นะครับ 💜

เทคนิคการหมุนจักระที่เจ็ด สหัสราระ/สหัสธาร จักระมงกุฎ

  

ขั้นที่ 2 ฝึกหมุนจักระที่ 7

2.1 ลำดับการหมุนจักระ ให้เริ่มจากจักระที่ 7 เมื่อคุณฝึกฟอกปราณบริหารปอดฯ และหลอดลมสำเร็จแล้ว ให้เริ่มฝึกสมาธิปราณจักระที่ 7 คือทำทุกขั้นตอนเหมือนเดิม แต่เวลาฝึกหมุนจักระให้หลับตาเหมือนนั่งสมาธิ และเปลี่ยนให้แผ่วเบาลง ปล่อยตัวตามสบาย สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมคือ เมื่อดึงลมหายใจเข้า ให้จินตภาพว่ามีรัศมีวงกลมสีม่วงกำลังหมุนเวียนไปตามเข็มนาฬิกาที่บริเวณกลางศีรษะ หมุนวนอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเร็ว หมุนให้เราจับภาพในจินตนาการได้ว่า พลังงานจากห้วงจักรวาลกำลังไหลผ่านรัศมีสีม่วงลงมาตามลมหายใจ และไปสิ้นสุดที่บริเวณท้องน้อยเหมือนเดิม การฝึกขั้นที่สองนี้ ลักษณะมือยังคงอยู่ในท่า ฮาคินีมุทราอยู่อย่างนั้น ทำเช่นเดิมกับขั้นตอนที่ 1 ทุกประการ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือจินตภาพที่กำหนดให้ชัดเจนที่สุด และในการจินตภาพทุกครั้ง ให้ผู้ฝึกกำหนดความรู้สึกไปอยู่บริเวณจักระดังกล่าวเสมอ เทคนิคการไล่ความรู้สึกไปตามเส้นปราณจะคุ้นเคยเมื่อทำการฝึกบ่อยครั้งขึ้น กล่าวคือ #รู้สึกว่าหมุนอยู่ตรงนั้น #รู้สึกว่าเคลื่อนจากจุดนั้นไปตามกระดูกสันหลัง #ความรู้สึกจะไล่ไปพร้อมกับลมหายใจ #เคลื่อนเข้าและออกอย่างช้า #สติจับจินตภาพ

(วิดิโอประกอบบทความ)

สำหรับจักระ 7 แนะนำว่าให้ใช้ฮาคินีมุทรา Hakini Mudra นะครับ เพราะไหลเวียนพลังจากนิ้วทั้ง 5 ได้สมบูรณ์กว่า เหมาะแก่การหมุนจักระ 7 มาก จากประสบการณ์ตรง ถ้าจะเลือกใช้ปราณมุทราสำหรับจักระ 7 ก็ไม่ผิดอะไรครับ แต่ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าปราณมุทราเหมาะแก่การทำสมาธิแบบลึกมากกว่า คือการดำดิ่งไปสู่ห้วงจักรวาล จินตภาพไปว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล ประมาณนั้น ในการหมุนจักระแนะนำฮาคินีครับผม

2.2 เมื่อลมหายใจกักอยู่ที่บริเวณท้องน้อย ให้จินตภาพว่า คลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า กำลังดูแลระบบการทำงานในร่างกาย ให้ความอบอุ่น และหมุนวนไปทั่วเรือนร่าง จังหวะนี้ ยังคงจินตภาพหมุนรัศมีสีม่วงของจักระ 7 ไปตามเข็มนาฬิกาเช่นเดิมนะครับ กักลมไว้ 3-5 วินาทีเช่นเดิม

2.3 เมื่อผ่อนลมหายใจออก เปลี่ยนจากการผ่อนออกทางปากเป็นผ่อนออกทางจมูกอย่างช้า อาจจะนับถอยหลังตามสูตรที่บางคนให้ไว้ก็ได้เช่น ดึงลมเข้า 4 วินาที กักไว้ 4 วินาที ปล่อยออก 8 วินาที สูตรนี้ก็ไม่เสียหาย แต่จากประสบการณ์แล้ว เมื่อเราฝึกจนชำนาญ จะสามารถกักลมได้นานขึ้นอีกเล็กน้อย และผ่อนลมออกได้ยาวขึ้นเล็กน้อย เช่น อาจจะ กักไว้ 5-7 วินาที และผ่อนออกทางจมูก 8-10 วินาที ก็สามารถทำได้ 

ในขณะเดียวกันที่ผ่อนลมหายใจออก ให้จินตภาพว่ารัศมีสีม่วงบนศีรษะ กำลังหมุนทวนเข็มนาฬิกา ไม่ต้องเร่งการหมุน ปล่อยตามธรรมชาติให้สอดคล้องกับการผ่อนลมหายใจ และจินตภาพซ้อนไปว่า พลังงานจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจักรวาล กำลังแผ่ออกทางศีรษะ กลับคืนสู่จักรวาลอย่างเหลือประมาณ (รับมาอย่างเต็มเปี่ยม และส่งคืนอย่างเหลือประมาณ) ขั้นตอนนี้ให้ใช้จิตเมตตานำทาง เปรียบเสมือนการแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์บนผืนโลก และเทคนิคการผ่อนลมหายใจนี้ใช้กับทุกการหมุนจักระในลำดับต่อไปด้วย ดังนั้น ต้องฝึกการหมุนจักระที่ 7 นี้ให้คล่องเสียก่อน ก่อนที่จะไปฝึกหมุนจักระขั้นต่อไป (หมุนจักระ 1 เซ็ต คือทำ 5-10 รอบเท่านั้น)

“ฝึกฌานจักระมุทรา”
2.4 ทำลักษณะเดียวกันนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 10 รอบ แล้วสลับกับการฝึกฌานจักระ นั่นก็คือสลับมาดึงลมหายใจแบบปกติไม่ต้องกักลม 3-5 วินาที ดึงลงสุดแล้วผ่อนออกสุดเหมือนการนั่งสมาธิผ่อนคลายโดยทั่วไป ต่างกันที่จินตภาพคือการเพ่งความรู้สึกว่ารับพลังเข้ามาผ่านจักระ 7 มีแสงรัศมีสีม่วงปรากฎในจินตภาพ แสงเหล่านั้นหมุนเวียนเองตามธรรมธาติ เราไม่ได้พยายามเอาจิตเข้าไปหมุนเหมือนตอนหมุนจักระ พลังเหล่านั้นไหลลงสู่ท้องน้อยจนสุด หยุดชั่วขณะหนึ่งก็ผ่อนลมออกช้า ๆ เบา ๆ เหมือนเดิม ไม่ต้องกักลมที่ท้อง เหมือนสูตรหมุน เพ่งอารมณ์ไปตามจักระที่ฝึก และสามารถฝึกได้นานตามที่คุณต้องการ หากผ่านไปแล้วสัก 10 นาที คุณจะสามารถฝึกหมุนจักระ1 เซ็ต ก็สามารถทำได้ และก่อนจบการฝึกปราณทุกครั้ง ให้ทำการฟอกปราณบริหารปอด จบแล้วอย่าพึ่งรีบลุก ให้ร่างกายผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์เสียก่อนแล้วจึงค่อยเปลี่ยนอิริยาบถ

     *** ถึงแม้การกลั้นลมหายใจ หรือกักลมดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากพยายามฝึกเกร็งมากเกินไปกับคนที่ฝึกใหม่ อาจจะส่งผลให้หน้ามืด เวียนศีรษะ หรือมือเท้าชาได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่นโรคหัวใจ, โรคความดันโลหิต, โรคหอบ, โรคภูมิแพ้, โรคหลอดเลือดหัวใจ, เป็นลมพิษบ่อย หรือผู้ที่ต้องใช้ยาเพื่อรักษาอาการทางจิตเวช ฯลฯ เพราะระยะอาการของโรคนั้นแตกต่างกัน คุณจะต้องทำการปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณเพื่อสอบถามก่อนที่จะตัดสินใจฝึกปราณวิถีในลักษณะหมุนจักระและกักลม แต่คุณสามารถฝึกในรูปแบบฌานจักระได้อย่างผ่อนคลายไม่ฝืนจนเกินไป ทำเท่าที่ร่างกายคุณตอบสนองและรู้สึกดีก็เพียงพอ ***

     แต่สำหรับนักกีฬาที่มีกิจกรรมในการกลั้นหายใจอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดเช่น นักดำน้ำ หรือนักว่ายน้ำ หรือกิจกรรมบางอย่างที่เมื่อต้องใช้ความอดทนในการทำกิจกรรม ร่างกายจะตอบสนองโดยสั่งให้คุณกลั้นหายใจชั่วขณะแบบอัตโนมัติ เหมือนที่เราจะมักพูดกันเวลาต้องการยกของหนักว่า “อ่าว .. ฮึบ” นั่นคือการที่ร่างกายสูดลมหายใจเข้าและกลั้นหายใจเพื่อยกขึ้น อาจจะเกิดจากการหายใจที่เร็วขึ้นและแรงขึ้น หลังจากนั้นกักลมหายใจไว้เพื่อเพิ่มแรง และผลการวิจัยจาก European Journal of Applied Physiology ก็แสดงให้เห็นว่านักกีฬาที่ผสมผสานการฝึกแบบเข้มข้นร่วมกับการฝึกกลั้นหายใจที่มีประสิทธิภาพ จะสามารถทนทานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     หรือจากการศึกษาทางวิชาการของ ดร.แอนดรู เวล (Dr.Andrew Weil) นายแพทย์ชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญแพทย์บูรณาการ (Intergrative Medicine) กล่าวถึงเทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8 (สูดลม 4 วินาที, กักลมไว้ 7 วินาที และผ่อนลมออกทางปาก 8 วินาที) ว่าเป็นพื้นฐานของผู้ฝึกปราณายามะในแบบโยคะ ซึ่งช่วยควบคุมลมหายใจให้ช้าลง ปรับสภาวะร่างกายได้ดีขึ้น สามารถช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

     ถึงแม้จะมีงานวิจัยมากมายกล่าวถึงข้อดีของการฝึกกลั้นหายใจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ฝึกจะทำอะไรที่เกินขอบเขตความพอดี ดังนั้น การฝึกในลักษณะฟอกปราณบริหารปอด และการหมุนจักระ จึงควรทำอย่างเหมาะสมสลับกับการฝึกฌานจักระ บางคนอ่านเจอบทความเรื่องกลั้นหายใจมีประโยชน์ช่วยปรับให้ร่างกายใช้ออกซิเจนน้อยลง และความคงทนต่อสภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูงขึ้น จึงทำการฝึกกลั้นหายใจเป็นเวลานาน เช่น 1-3 นาที แบบนั้นอาจไม่ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างที่คิด ดังนั้น การฝึกฝนร่างกายให้พอเหมาะพอดีกับพัฒนาการย่อมมีผลสำเร็จที่สุกงอมกว่าการเร่ง การรีบ หรือการพยายามทำเกินตัวนะครับ

ผลจากการฝึกขั้นที่ 2 : จะทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้น คิดงาน วางแผนงาน หรือการจัดระเบียบความคิดดีขึ้น รับรู้ถึงคลื่นพลังแม่เหล็กไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกาย และส่งคืนกลับสู่จักรวาลได้ชัดเจนขึ้น

👇💖ช่องทางการสั่งซื้อหนังสือ💘👇

สามารถสนับสนุนหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์พยากรณ์, ตำนานและความเชื่อ, ธรรมชาติบำบัดและสุขภาพ ฯลฯ ของผู้เขียน "ไป๋ล่ง" ได้หลายช่องทาง .. ดังนี้







ความคิดเห็น

แนะนำสำหรับคุณ

ศาสตร์ทำนายไพ่ยิปซีระดับสูง The Expert Tarot Guide (เล่ม 3) จบ

  "หนังสือ ศาสตร์ทำนายไพ่ยิปซีระดับสูง The Expert Tarot Guide เป็นเล่มปิดจบของหนังสือคู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี (เล่ม 1) และไพ่ยิปซีชี้ทางรวย (เล่ม 2) ซึ่งเนื้อหาหลักในเล่ม 3 (เล่มจบ) นี้จะเป็นเรื่องการเข้าถึงแก่นแท้ของนักพยากรณ์ และการดึงเอาความสามารถที่หลากหลายจากไพ่ทาโรต์ มาเป็นอุปกรณ์ที่มากกว่าไพ่ทำนาย การทำความเข้าใจความหมายไพ่เมื่อเชื่อมโยงหลักธาตุ รวมถึงใช้ไพ่เพื่อสื่อสารกับสิ่งลี้ลับ หรือไขทุกสิ่งที่อยากรู้" หมายเหตุ : โปรหนังสือคู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี เล่ม 1-2-3 แถมไพ่ชุดฝึกทำนาย 6x10.3 ซม. 1 สำรับฟรีทุกการสั่งซื้อ หนังสือบ้านเราเป็นงานแฮนด์เมด พิมพ์สี Inkjet ทั้งเล่ม เข้าปกแข็งแรงเหมือนเดิม #แถมปกใสทุกเล่ม ตามมาตรฐานสายฮีลบุ๊คสโตร์ ● ซื้อแยกเล่มจำหน่ายเฉพาะหนังสือคู่มือไม่มีไพ่แถม ● ใช้กับไพ่ชุดไรเดอร์เวท หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปตามความต้องการลูกค้า หรือหน้าสินค้าของเรามีไพ่ชุดฝึกทำนาย สำรับละ 80 บาท *ก่อนซื้อไปอ่านต้องรู้* เหมาะกับผู้ที่อ่านไพ่ทาโรต์เป็นแล้วเท่านั้น ไพ่ทาโรต์กับศาสตร์เวทมนตร์พยากรณ์ พิธีชำระไพ่ เพิ่มพลัง ล้างอาถรรพ์ หัวใจของคำถามและคำตอบ การอ่านไ...

คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี The Tarot Guide (เล่ม 1) ปรับพื้นฐานสู่นักพยากรณ์มืออาชีพ

หนังสือไพ่ยิปซี /คู่มือเล่มนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการศึกษาด้วยตนเอง มีตัวอย่างอธิบายวิธีการอ่านไพ่ ในความหมายที่แจกแจกเป็น หมวดรัก หมวดงาน หมวดเรียน หมวดครอบครัว หมวดการเงิน ของทุกหน้าไพ่ ใช้งานง่าย แต่เนื้อหาค่อนข้างอัดแน่น อาจจะมองว่ายาก แต่ถ้าทำความเข้าใจเป็นลำดับจะเห็นภาพมากขึ้น ทักษะลีลาการอ่านหน้าไพ่ของผู้เขียนอาจช่วยให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนรู้ จะดูด้วยตัวเอง ดูให้เพื่อน แอบเช็คดวงแฟน หรือพยากรณ์เป็นอาชีพก็สามารถทำได้ตามจริต ปล. แอบเช็คดวงแฟน อาจารย์พูดขำ ๆ นะครับ 555 ส่วนใหญ่ถ้าจิตปรุงแต่งเกินไป ดวงที่ได้ก็จะไม่แม่นยำ ขอให้ใช้วิจารณญาณ หมายเหตุ : โปรหนังสือคู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี เล่ม 1-2-3 แถมไพ่ชุดฝึกทำนาย 6x10.3 ซม. 1 สำรับฟรีทุกการสั่งซื้อ หนังสือบ้านเราเป็นงานแฮนด์เมด พิมพ์สี Inkjet ทั้งเล่ม เข้าปกแข็งแรงเหมือนเดิม #แถมปกใสทุกเล่ม ตามมาตรฐานสายฮีลบุ๊คสโตร์ ● ซื้อแยกเล่มจำหน่ายเฉพาะหนังสือคู่มือไม่มีไพ่แถม ● ใช้กับไพ่ชุดไรเดอร์เวท หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปตามความต้องการลูกค้า หรือหน้าสินค้าของเรามีไพ่ชุดฝึกทำนาย สำรับละ 100 บาท เทคนิคการเรียนรู้ไพ่ยิปซี คือการฝึกอ่านไ...

ไพ่ยิปซีชี้ทางรวย The Tarot Guide 2 Get Rich (เล่ม 2) ทำนายโชคลาภ ทางเลือกธุรกิจ ตรวจพลังงาน

  หนังสือไพ่ยิปซี คู่มือนักพยากรณ์ 2 "ไพ่ยิปซีชี้ทางรวย" The Tarot Guide 2 (Get Rich) เล่มนี้ เป็นภาคต่อจาก "#คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซ๊" The Tarot Guide เล่มแรก ที่ได้รับการตอบในเรื่องของเนื้อหาที่ละเอียด กระชับ ครบถ้วนดีนะครับ ถามว่าเล่มนี้มีอะไรเพิ่มเติม ผู้เขียนขอใช้คำว่าเป็นที่สุดของการใช้ไพ่ยิปซีในการทำนายดวงชะตา สามารถเจาะได้ทุกเรื่อง เสมือนเพื่อนคู่ใจก็ว่าได้ เนื้อหาเด่นจะเป็นเรื่องของการใช้ไพ่พยากรณ์เพื่อธุรกิจ การค้า การตัดสินใจ โชคลาภและการเสี่ยงโชค การปรับพลังบนใบหน้า การปรับพลังของบ้านหรือกิจการ ดังนั้น หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานการพยากรณ์มาพอสมควรแล้วอยากจะต่อยอดในเรื่องราวเหล่านี้นะครับ ถ้าไม่มีพื้นฐานเลยจำเป็นต้องศึกษาเล่ม 1 หรือศึกษาด้วยตนเองก่อนเน๊าะ .... หมายเหตุ : โปรหนังสือคู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี เล่ม 1-2-3 แถมไพ่ชุดฝึกทำนาย 6x10.3 ซม. 1 สำรับฟรีทุกการสั่งซื้อ หนังสือบ้านเราเป็นงานแฮนด์เมด พิมพ์สี Inkjet ทั้งเล่ม เข้าปกแข็งแรงเหมือนเดิม #แถมปกใสทุกเล่ม ตามมาตรฐานสายฮีลบุ๊คสโตร์ ● ซื้อแยกเล่มจำหน่ายเฉพาะหนังสือคู่มือไม่มีไพ่แถม ● ใช้กับไ...

หนังสือ "อักษรรูน" การใช้รูนพยากรณ์และเกร็ดตำนานนอร์ส Runes Reading and Norse Mythology

  " อักษรรูนส์ " หรือ Runar เป็นอักขระโบราณที่สร้างปาฏิหาริย์ข้ามยุคสมัย ถึงแม้จะถูกลืมไปในบางห้วงเวลา แต่ปัจจุบัน ความนิยมในการนำอักษรรูนส์เพื่อมาใช้ทำนาย หรือกระทั่งผูกเป็นยันต์ทำเวทมนตร์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางประการ ก็ถูกยอมรับอย่างแพร่หลายในยุโรป และเอเชียบางกลุ่ม ความโดดเด่นของอักษรรูนส์คือรูปทรงที่ผสมกันแล้วทันสมัย แปลกตา แต่ดูมีพลัง ทำให้กลุ่มคนที่ชอบรอยสักนิยมสักอักษรรูนส์ หรือทำเป็นเครื่องรางพกติดตัวด้วยความเชื่อเรื่องพลังศักดิ์สิทธิ์จากรูน สำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับศาสตร์อักษรรูนส์ (Runes) วันนี้มีตำรารูนส์มานำเสนอครับ เหมาะสำหรับการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐาน ประวัติความเป็นมา เกร็ดตำนานนอร์ส ไปสู่การนำรูนมาใช้ในการพยากรณ์ หรือทำนายดวงชะตา สำหรับเล่มนี้ เป็นฉบับปรับปรุงใหม่จากเล่มแรก "รูนส์ อักขระพยากรณ์และการผูกยันต์ร่ายคาถา" เพื่อเป็นการแยกหมวดยันต์ออกไปใส่ในเล่มยันต์ และอัดแน่นเนื้อหาในหมวดพยากรณ์ โดยเพิ่มเติมเทคนิคการพยากรณ์ขั้นสูงใส่ลงไป ซึ่งจะหาผู้เรียบเรียงเรื่องนี้นั้นอาจจะยาก เพราะเกิดจากการบ่มเพาะประสบการณ์ และความเข้าใจที่มากพอ ดังนั้น ผู้ที่ได้ศึกษ...

หนังสือสายมูต้องมนต์ ที่มาความเชื่อแบบพุทธ พราหมณ์ ผี กับแนวทางสู่ความสำเร็จของสายมูเตลู

  ที่มาความเชื่อในวัฒนธรรมไทยทั้งแบบพุทธ พราหมณ์ ผี สู่วิถีปฏิบัติของสายมูเตลูที่แสวงหาความสุข ความสำเร็จ ร่ำรวย รุ่งโรจน์ ในแบบที่ไม่หลงทาง ฝากหนังสือเล่มใหม่ เผื่อใครที่สนใจนะครับ 🔥 📒#สายมูต้องมนต์ 📒🔥 เป็นหนังสือที่อธิบายถึงที่มาที่ไปของความเชื่อทางศาสนาในประเทศไทย ที่หลอมรวมผสมผสานทั้งพุทธ พราหมณ์ ผี จนเป็นวิถีปฏิบัติกราบไหว้บูชาในปัจจุบันแบบแยกไม่ออก ในขณะที่สายมูเตลูอีกหลายคนยังอาจหลงทางในการเข้าวัด ทำบุญ ขอพร หรือแม้กระทั่งการบูชาที่บ้าน เนื่องจากขาดความเข้าใจในวิถีปฏิบัติตามความเชื่อดั้งเดิมของศาสนานั้น "ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่หนังสือสอนธรรมะในเชิงการแสวงหาหนทางหลุดพ้นเสียทีเดียว (อย่างน้อยก็ในตอนนี้นะครับ) แต่เป็นแนวทางปรับความเข้าใจ คิดตามได้ ปฏิบัติตามได้ พิสูจน์ผลได้ด้วยตนเอง ให้กับสายมูเตลูที่ยังคงแสวงหาความสุข ความสำเร็จ ความรุ่งโรจน์ และความมั่งคั่งร่ำรวยในทางโลก แบบไม่หลงทาง แนวทางการดึงลมหายใจฟอกปอด และระบบจักระมุทรา ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดี การดำเนินชีวิตที่มีสติ และมีประสิทธิภาพนั่นเองครับ สำหรับใครใคร่สวดมนตร์ ก็แนะนำบทสวดพ...